แบบฝึกหัด
คำสั่ง หลังจากนักศึกษาได้ศึกษาบทเรียนนี้แล้ว จงตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1.ท่านคิดว่าทำไมมนุษย์เราต้องมีกฎหมายหากไม่มีจะเป็นอย่างไร
ตอบ มนุษย์เราจำเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อเป็นแนวทางหรือกฎเกณฑ์ต่าง
ๆ ที่เป็นแบบแผนเพื่อควบคุมควบความประพฤติสมาชิกในสังคมรวมทั้งเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมหากไม่มีกฎหมายสังคมก็จะวุ้นวายไม่มีความสงบสุข
2.ท่านคิดว่าสังคมปัจจุบันจะอยู่ได้หรือไม่หากไม่มีกฎหมายและจะเป็นอย่างไร
ตอบ
อยู่ไม่ได้ถ้าสังคมปัจจุบันไม่มีกฎหมายจะมีแต่ความวุ้นวายไม่มีความสงบสุขหาข้อยุติได้
3. ท่านมีความรู้ความเข้าเกี่ยวกับกฎหมายในประเด็นต่อไปนี้
ก. ความหมาย
ตอบ ความหมายของกฎหมายคือ กฎเกณฑ์ที่กำหนดความประพฤติของบุคคลให้ต้องปฏิบัติตามหรือควรจะปฏิบัติตาม
มิฉะนั้นจะได้รับผลร้ายหรือไม่ได้ผลดีที่เป็นสภาพบังคับโดยเจ้าหน้าที่ในระบบกฎหมาย
ข. ลักษณะหรือองค์ประกอบของกฎหมาย
ตอบ ลักษณะหรือองค์ประกอบของกฎหมาย หากนามาพิจารณาพอที่กำหนดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของกฎหมายที่สำคัญคือ
ประชาชนที่อยู่ร่วมกันในอาณาเขตเดียวกัน และมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง
1. เป็นคาสั่งหรือข้อบังคับที่เกิดจากรัฎฐาธิปไตย์ที่องค์กรหรือคณะบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดอาทิ
รัฐสภาฝ่ายนิติบัญญัติ หัวหน้าคณะปฏิวัติ กษัตริย์ในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สามารถใช้อำนาจบัญญัติกฎหมายได้
2. มีลักษณะเป็นคาสั่งข้อบังคับ
อันมิใช่คาวิงวอน ประกาศ หรือแถลงการณ์ อาทิ ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ คาแถลงการณ์ของคณะสงฆ์
ให้ถือเป็นแนวปฏิบัติมิใช่กฎหมาย สาหรับคาสั่งข้อบังคับที่เป็นกฎหมาย
3. ใช้บังคับกับคนทุกคนในรัฐอย่างเสมอภาค
เพื่อให้ทุกคนเกรงกลัวและถือปฏิบัติสังคมจะสงบสุข
4. มีสภาพบังคับ ซึ่งบุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเฉพาะการกระทาและการงดเว้นการกระทาตามกฎหมายนั้น
ๆ กำหนด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษหรือไม่ก็ได้ และสภาพบังคับในทางอาญาคือ
โทษที่บุคคลผู้ที่กระทาผิดจะต้องได้รับโทษ
ค. ที่มาของกฎหมาย
ตอบ ที่มาของกฎหมาย มีตาราบางแห่งใช้ว่าบ่อเกิดของกฎหมาย หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นรูปแบบที่กฎหมายแสดงออกมา
สาหรับที่มาของกฎหมายในแต่ละประเทศมีที่มาแตกต่างกัน ส่วนของประเทศไทย พอที่จะสรุปได้ 5 ลักษณะดังนี้
1.
บทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เป็นกฎหมายลักษณ์อักษร
2.
จารีตประเพณี
เป็นแบบอย่างที่ประชาชนนิยมปฏิบัติตามกันมานาน หากนาไปบัญญัติเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรแล้วย่อมมีสภาพไปเป็นกฎหมาย
3.
ศาสนา เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ดีของทุก
ๆ ศาสนาสอนให้เป็นคนดี
4.
คาพิพากษาของศาลหรือหลักบรรทัดฐานของคาพิพากษา
ซึ่งคาพิพากษาของศาลชั้นสูงเป็นแนวทางที่ศาลชั้นต้นต้องนาไปถือปฏิบัติในการตัดสินคดี
5. ความเห็นของนักนิติศาสตร์ เป็นการแสดงความคิดเห็นของว่าสมควรที่จะออกกฎหมายอย่างนั้น
สมควรหรือไม
ง. ประเภทของกฎหมาย
ตอบ ได้มีนักวิชาการแบ่งประเภทของกฎหมายไว้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ในการแบ่งของแต่ละท่าน
การแบ่งประเภทกฎหมายที่จะนาไปใช้นั้นมีรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกัน
1. กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
2.กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญา และกฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง
3. กฎหมายสารบัญญัติ และกฎหมายวิธีสบัญญัติ
4. กฎหมายมหาชน และกฎหมายเอกชน
4. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร
ว่า ทำไมทุกประเทศจำเป็นต้องมีกฎหมาย จงอธิบาย
ตอบ ประเทศทุกประเทศจำเป็นต้องมีกฎหมายถ้าหากไม่มีกฎหมายประเทศชาติก็จะวุ้นวายไม่ว่าจะเป็นชาติใดล้วนแต่จำเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อให้ประเทศมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดความวุ้นวาย
5.สภาพบังคับในทางกฎหมายท่านมีความเข้าใจอย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ กฎหมายที่บุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเฉพาะการกระทำและการงดเว้นการกระทำตามกฎหมายนั้น ๆ กำหนด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษหรือไม่ก็ได้ เช่น ถูกปรับ จำคุก ประหารชีวิต เป็นต้น
6.สภาพบังคับกฎหมายในอาญาและทางแพ่ง
มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 วรรคแรก บัญญัติโทษทางอาญา เช่น
การประหารชีวิต จาคุก กักขัง ปรับ หรือริบทรัพย์สิน
สภาพบังคับทางอาญาจึงเป็นโทษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง
ใช้ลงโทษกับผู้กระทาผิดทางอาญา
กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง ได้บัญญัติถึงสภาพบังคับลักษณะต่าง ๆ
กันไว้สาหรับลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่กระทาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่น
การกำหนดให้เป็น โมฆะกรรมหรือโมฆียกรรม การบังคับให้ชาระหนี้
การให้ชดใช้ค่าเสียหาย
หรือการที่กฎหมายบังคับให้ทาอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อความเป็นธรรม
อนึ่งสาหรับสภาพบังคับทั้งทางอาญาและทางแพ่งควบคู่กันไปก็ได้
เช่น กฎหมายที่ดินพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
และพระราชบัญญัติการล้มละลาย อีกทั้งยังมีสภาพบังคับทางปกครองอีก
ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
7.ระบบกฎหมายเป็นอย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ ระบบของกฎหมายมี 2 ระบบ
1.
ระบบซีวิลลอร์ (Civil Law System) หรือระบบลายลักษณ์อักษร
2.
ระบบคอมมอนลอว์ (Common Law System)
8.ประเภทของกฎหมายมีหลักการแบ่งอย่างไรบ้าง
มีกี่ประเภท แต่ละประเภทประกอบด้วยอะไรบ้าง ยกตัวอย่างอธิบาย
ตอบ แบ่งโดยแหล่งกำเนิด อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
ก. กฎหมายภายใน มีดังนี้
1. กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
2. กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญา และกฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง
3. กฎหมายสารบัญญัติ และกฎหมายวิธีสบัญญัติ
4. กฎหมายมหาชน และกฎหมายเอกชน
ข. กฎหมายภายนอก มีดังนี้
1. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง
2. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
3. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา
9.ท่านเข้าใจถึงคำว่าศักดิ์ของกฎหมายคืออะไร
มีการแบ่งอย่างไร
ตอบ คาว่า “ศักดิ์ของกฎหมาย” พอที่จะสรุปได้ว่า “เป็นการจัดลาดับแห่งค่าบังคับของกฎหมายหรืออาจกล่าวได้ว่าอาศัยอำนาจขององค์กรที่ใช้อำนาจจากองค์กรที่แตกต่างกัน”
1.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
2.
พระราชบัญญัติและประมวลกฎหมาย
3.
พระราชกำหนด
4.
ประกาศพระบรมราชโองการ
5.
พระราชกฤษฎีกา
6.
กฎกระทรวง
7.
ข้อบัญญัติจังหวัด
8.
เทศบัญญัติ
9.
ข้อบังคับองค์การบริหารส่วนตำบล
10. เหตุการณ์ เมื่อวันที่
24 พฤศจิกายน 2555 มีเหตุการณ์ชุมนุมของประชาชน
ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และประชาชนได้ประกาศว่าจะมีการประชุมอย่างสงบ แต่ปรากฏว่า รัฐบาลประกาศ
เป็นเขตพื้นที่ห้ามชุมนุม
และขัดขว้างไม่ให้ประชาชนชุมนุมอย่างสงบ ลงมือทำร้ายร่างกายประชาชน ในฐานะท่านเรียนวิชานี้ท่านจะอธิบายบอกเหตุผลว่า
รัฐบาลกระทำผิดหรือถูก
ตอบ ถ้ากรณีในพื้นที่ดังกล่าวได้มีการประกาศ
พรบ.ความมั่นคง และเป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ และมีการชุมนุมเกิดในพื้นที่ดังกล่าวโดยสงบ
ปราศจากอาวุธ
และทางรัฐบาลมีการสลายการชุมนุมนั้นเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย
เพราะเนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐ ได้ให้อำนาจประชาชนในการชุมชุนโดยปราศจากอาวุธ
11.ท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
คำว่า กฎหมายการศึกษาอย่างไร จงอธิบาย
ตอบกฎหมายการศึกษาคือ
บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับกฎหรือคาสั่งหรือข้อบังคับของรัฐทีเกี่ยวข้องกับการศึกษาที่สถาบันหน่วยงานผู้มีอำนาจ
ได้ตราขึ้นและมีผลบังคับใช้
12. ในฐานะที่นักศึกษาจะต้องเรียนวิชานี้
ถ้าเราไม่ศึกษากฎหมายการศึกษาท่านคิดว่า เมื่อท่านไป
ประกอบอาชีพครู จะมีผลกระทบต่อท่านอย่างไรบ้าง
ตอบ กฎหมายการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาคน
ถ้าไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการศึกษา จะทำให้เราไม่รู้กฎเกณฑ์
หรือข้อกำหนดที่ถูกต้องในการให้การศึกษาแก่เยาวชน
และเมื่อกระทำผิดในทางที่ไม่ถูกต้องอาจถูกผู้ปกครองหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องฟ้องร้องได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น